คอลลาเจนสำหรับผู้เริ่มต้น การดูแลสุขภาพผิวและร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนให้ความสำคัญในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความเครียดและการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวและร่างกายของเราได้อย่างมาก หนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพคือ “คอลลาเจน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของผิวหนัง ข้อต่อ และเนื้อเยื่อในร่างกาย คอลลาเจนยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย และส่งเสริมสุขภาพข้อต่อ ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการชะลอการเกิดริ้วรอยและฟื้นฟูสภาพผิว

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้คอลลาเจน อาจมีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการเลือกใช้คอลลาเจนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชนิดของคอลลาเจน รูปแบบการบริโภค หรือปริมาณที่ควรรับประทาน ในบทความนี้ เราจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้คอลลาเจนสำหรับผู้เริ่มต้นอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้คอลลาเจน ไม่เพียงแต่ในการเสริมสร้างสุขภาพผิว แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวมอีกด้วย

 

คอลลาเจนสำหรับผู้เริ่มต้น คืออะไร?

คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกาย มันเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ประกอบด้วยผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ในร่างกายของมนุษย์ คอลลาเจนมีปริมาณมากที่สุดในบรรดาโปรตีนทั้งหมด โดยมีสัดส่วนถึงประมาณ 30% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

คอลลาเจนทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักที่ช่วยให้เนื้อเยื่อต่างๆ ยึดติดกันอย่างมั่นคง มันทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อเมื่อมีการบาดเจ็บ การบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับกระดูก ข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อส่วนใหญ่จะฟื้นตัวได้ดีเนื่องจากการทำงานของคอลลาเจน

อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงและคุณภาพของคอลลาเจนที่ผลิตได้ก็ลดลงด้วย ผลที่ตามมาคือการเกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และการลดลงของความยืดหยุ่นของผิวหนัง รวมถึงการเสื่อมสภาพของข้อต่อและกระดูก การสูญเสียคอลลาเจนเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น อาการปวดข้อ กระดูกเปราะ และผิวหนังที่แห้งและหย่อนคล้อย

ประเภทของคอลลาเจนที่ควรรู้จัก

คอลลาเจนมีหลายประเภท โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นมากกว่า 28 ชนิด แต่ที่สำคัญและเป็นที่นิยมใช้ในการเสริมอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจะมีอยู่ 5 ชนิดหลัก ได้แก่:

• คอลลาเจนชนิดที่ 1: คอลลาเจนชนิดนี้เป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดในร่างกายของมนุษย์ โดยมีสัดส่วนมากกว่า 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย มันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น และเนื้อเยื่ออื่นๆ
• คอลลาเจนชนิดที่ 2: คอลลาเจนชนิดนี้พบมากในกระดูกอ่อนและข้อต่อ มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของข้อต่อและกระดูกอ่อน การบริโภคคอลลาเจนชนิดนี้จึงช่วยในการป้องกันและบรรเทาอาการปวดข้อจากโรคข้อเสื่อม
• คอลลาเจนชนิดที่ 3: มักพบร่วมกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 ในผิวหนังและหลอดเลือด มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและอวัยวะภายใน
• คอลลาเจนชนิดที่ 4: คอลลาเจนชนิดนี้พบในชั้นใต้เยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเนื้อเยื่อภายในร่างกาย มันช่วยในการสร้างโครงสร้างของเนื้อเยื่อและเส้นเลือด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการกรองและการทำงานของเส้นเลือดฝอย
• คอลลาเจนชนิดที่ 5: คอลลาเจนชนิดนี้พบในผิวหนัง ผม และรก มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและการเจริญเติบโตของเส้นผมและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

 

คำแนะนำในการเลือก คอลลาเจนสำหรับผู้เริ่มต้น

การเลือกใช้คอลลาเจนที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนี้:

พิจารณาประเภทของคอลลาเจนที่ต้องการ

สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณ คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างและรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวหนัง แต่หากคุณมีปัญหาข้อต่อหรือกระดูก คอลลาเจนชนิดที่ 2 อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

เลือกรูปแบบของคอลลาเจนที่เหมาะกับคุณ

คอลลาเจนมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เช่น ผง, แคปซูล, เม็ด, และเครื่องดื่ม การเลือกใช้รูปแบบใดขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของคุณ เช่น หากคุณไม่ชอบทานยาเม็ดหรือแคปซูล คอลลาเจนผงที่สามารถผสมกับเครื่องดื่มโปรดของคุณก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ตรวจสอบส่วนผสมเพิ่มเติมในผลิตภัณฑ์คอลลาเจน

บางผลิตภัณฑ์คอลลาเจนมีการเสริมส่วนผสมอื่นๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อการดูดซึมคอลลาเจนและเสริมสร้างสุขภาพผิว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพของคุณ

ปริมาณและความถี่ในการรับประทาน

ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพ และควรรับประทานคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองและปลอดภัย

การเลือกซื้อคอลลาเจนควรคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือและมีความปลอดภัยสูง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกใช้มีคุณภาพและไม่มีสารอันตรายเจือปน

 

 

วิธีการรับประทานคอลลาเจนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การรับประทานคอลลาเจนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นต้องมีการวางแผนและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยต่างๆ ที่ควรคำนึงถึงเมื่อรับประทานคอลลาเจนมีดังนี้:

เวลาที่เหมาะสมในการรับประทานคอลลาเจน

การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการรับประทานคอลลาเจนมีผลต่อประสิทธิภาพในการดูดซึมและการใช้ประโยชน์จากคอลลาเจน ช่วงเวลาที่แนะนำให้รับประทานคอลลาเจนคือ:

• ช่วงเช้าก่อนอาหาร: ในช่วงเวลานี้ กระเพาะอาหารยังว่างเปล่า ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ การรับประทานคอลลาเจนตอนเช้ายังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเสริมตั้งแต่เริ่มต้นวัน ส่งผลให้ผิวพรรณและข้อต่อได้รับการบำรุงตลอดวัน
• ช่วงก่อนนอน: การรับประทานคอลลาเจนก่อนนอนเป็นอีกช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ การได้รับคอลลาเจนในช่วงเวลานี้จะช่วยเสริมสร้างกระบวนการฟื้นฟูผิวหนัง ข้อต่อ และเนื้อเยื่อต่างๆ ในขณะที่คุณหลับ ทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การดื่มน้ำเพียงพอ

น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ การดื่มน้ำให้เพียงพอไม่เพียงแค่ช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนเท่านั้น แต่ยังช่วยในการกระจายคอลลาเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างทั่วถึง

• ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน: การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้น ซึ่งส่งผลดีต่อการทำงานของคอลลาเจนในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวหนัง นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังช่วยในการล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใสและสุขภาพดีขึ้น
• การดื่มน้ำขณะรับประทานคอลลาเจน: การดื่มน้ำพร้อมกับการรับประทานคอลลาเจนจะช่วยให้คอลลาเจนละลายในน้ำและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอลลาเจนในการทำงาน

การใช้คอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอ

การใช้คอลลาเจนอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน การใช้คอลลาเจนเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่

• การรับประทานคอลลาเจนทุกวัน: เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำทุกวันโดยไม่ขาดช่วง การรับประทานคอลลาเจนเป็นเวลานานต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ มักจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในการปรับปรุงสภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิวหนัง และลดริ้วรอย
• การปรับปริมาณคอลลาเจนตามความเหมาะสม: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเริ่มต้นด้วยปริมาณคอลลาเจนที่แนะนำในผลิตภัณฑ์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม หากคุณมีปัญหาสุขภาพเฉพาะทาง เช่น โรคกระดูกพรุน หรือปัญหาผิวพรรณที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการรับประทานคอลลาเจนให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

การเสริมคอลลาเจนด้วยอาหารและสารอาหารอื่นๆ

การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของคอลลาเจนเสริม:

• วิตามินซี: วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว เบอร์รี่ และผักสีเขียวเข้ม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน
• กรดอะมิโน: กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน ซึ่งรวมถึงคอลลาเจน การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ และถั่ว จะช่วยให้ร่างกายมีวัตถุดิบเพียงพอในการสร้างคอลลาเจน
• สารต้านอนุมูลอิสระ: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องคอลลาเจนจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้เบอร์รี่ มะเขือเทศ และชาเขียว จะช่วยปกป้องและเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำลายคอลลาเจน

นอกจากการเสริมคอลลาเจนด้วยการรับประทานอาหารและอาหารเสริมแล้ว ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่สามารถทำลายคอลลาเจนในร่างกายได้ เช่น:

• แสงแดด: รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนังได้ การป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยการใช้ครีมกันแดดและสวมใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันรังสี UV จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียคอลลาเจน
• การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพปอด แต่ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่สามารถทำลายคอลลาเจนในร่างกายได้ การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยปกป้องคอลลาเจนและสุขภาพผิว
• ความเครียด: ความเครียดมีผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้การผลิตคอลลาเจนลดลง การจัดการความเครียดด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ และใช้เทคนิคการผ่อนคลายจะช่วยรักษาระดับคอลลาเจนในร่างกาย

 

 

ประโยชน์ของคอลลาเจนที่ควรรู้

คอลลาเจนไม่เพียงแต่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวหนัง แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่ครอบคลุมถึงการดูแลสุขภาพโดยรวมของร่างกาย ต่อไปนี้คือประโยชน์หลักๆ ของคอลลาเจนที่คุณควรรู้:

การฟื้นฟูข้อต่อและกระดูก

คอลลาเจนชนิดที่ 2 มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและฟื้นฟูข้อต่อและกระดูกอ่อน เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลง ซึ่งอาจทำให้ข้อต่อเสื่อมสภาพและเกิดอาการปวดตามข้อต่างๆ การรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 อย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนและข้อต่อ ทำให้มีความยืดหยุ่นและความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยลดอาการปวดข้อและป้องกันการเสื่อมสภาพของข้อต่อในอนาคต นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคคอลลาเจนชนิดที่ 2 สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเสื่อมในผู้สูงอายุได้

เสริมสร้างสุขภาพเส้นผมและเล็บ

เส้นผมและเล็บเป็นส่วนสำคัญของความงามที่ต้องการการดูแลและบำรุงเป็นพิเศษ คอลลาเจนชนิดที่ 1 และชนิดที่ 3 มีบทบาทในการเสริมสร้างสุขภาพของเส้นผมและเล็บ ช่วยให้เส้นผมหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น และลดการหลุดร่วง การรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมดูเงางามและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้คอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเล็บให้แข็งแรง ลดปัญหาเล็บเปราะและหักง่าย ทำให้เล็บดูสุขภาพดีขึ้นและยาวเร็วขึ้น

ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก

การบริโภคคอลลาเจนชนิดที่ 1 และชนิดที่ 3 อาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยควบคุมน้ำหนัก คอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถเพิ่มความรู้สึกอิ่มนานและลดความอยากอาหาร การรับประทานคอลลาเจนเป็นอาหารเสริมในช่วงเช้าหรือก่อนมื้ออาหารสามารถช่วยลดการบริโภคแคลอรี่ส่วนเกินได้ นอกจากนี้คอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ทำให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปได้ง่ายขึ้น

การปรับปรุงสุขภาพลำไส้

คอลลาเจนยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของลำไส้ โดยเฉพาะคอลลาเจนชนิดที่ 4 ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ในระบบทางเดินอาหาร การรับประทานคอลลาเจนสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพลำไส้ ช่วยในการย่อยอาหาร และป้องกันการอักเสบของลำไส้ นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าคอลลาเจนสามารถช่วยบรรเทาอาการลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้สารพิษและแบคทีเรียสามารถผ่านเข้าไปในกระแสเลือดได้ การเสริมคอลลาเจนจึงมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง

ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ

คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของหลอดเลือด โดยเฉพาะคอลลาเจนชนิดที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของหลอดเลือด คอลลาเจนช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการรับประทานคอลลาเจนเสริมสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ในร่างกาย ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง

คอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว การรับประทานคอลลาเจนเสริมช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลในการช่วยปรับปรุงสีผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำและรอยแผลเป็น การรับประทานคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพดีและเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก

 

 

คำถามที่พบบ่อย

1. คอลลาเจนชนิดใดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิว?
คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิว เนื่องจากช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวหนัง

2. ควรรับประทานคอลลาเจนในช่วงเวลาใด?
ควรรับประทานคอลลาเจนในช่วงเช้าหรือก่อนนอน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด

3. คอลลาเจนมีผลข้างเคียงหรือไม่?
โดยทั่วไป คอลลาเจนไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเติมแต่งที่เป็นอันตราย

4. ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเห็นผลจากการใช้คอลลาเจน?
โดยปกติแล้ว ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้หลังจากการใช้ต่อเนื่องประมาณ 4-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับร่างกายและการดูดซึมของแต่ละบุคคล

 

อ้างอิง

1. Gavin Van De Walle , “ What You Need to Know About the Health Benefits of Collagen ” , healthline , January 29, 2024 , https://www.healthline.com/nutrition/collagen-benefits
2. Jenna Fletcher , “What to know about collagen supplements “ , medicalnewstoday , June 1, 2019 , https://www.medicalnewstoday.com/articles/325344
3. Dr. Shari Lipner “Can Collagen Supplements Really Reduce Signs of Aging?,” Health matters, May 18, 2024, https://healthmatters.nyp.org/can-collagen-supplements-really-reduce-signs-of-aging