ยาอายุวัฒนะคืออะไร | รู้แบบนี้ หยุด แก่ก่อนวัย ได้อีกยาวนาน !
ยาอายุวัฒนะ ความต้องการสูงสุดของทุกคน คือ การคงความหนุ่มสาวไว้ แม้อายุจะเพิ่มขึ้นก็ตาม จึงทำให้คนแสวงหา ยาอายุวัฒนะ ที่เปรียบเสมือนทางลัดที่ช่วยให้มีอายุยืน คืนความเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง ซึ่งยาอายุวัฒนะไม่ใช่ชื่อของยารักษาโรคแต่เป็นการเลือกใช้ชีวิต รวมถึงรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ในความหมายอีกมิติหนึ่งของ ยาอายุวัฒนะ อ.วิโรจน์ กันทาสุข โครงการพัฒนาภูมิปัญญาด้านสุขภาพพื้นบ้านล้านนา เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ มูลนิธีพัฒนาศักยภาพชุมชน ได้ให้ความหมายเพิ่มเติมไว้ว่า ยาอายุวัฒนะในความหมายของผู้รู้หมอเมืองล้านนา คือยาที่ทำให้อายุยยืนยาว เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคภัย ธาตุสมบูรณ์ เลือดลมดี เดินสะดวก ลดความเสี่ยงของภาวะโรคเบาหวาน รับประทานอาหารได้ดี นอนหลับสบาย ทำงานไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
“ยาอายุวัฒนะ ไม่ใช่ยาที่ทำให้คนไม่ตาย แต่เป็นยาบำรุงกำลัง อยู่ได้เป็นร้อยปี ถ้าปฏิบัติตามหลักที่เรากำลังจะบอกว่า ชาวบ้านสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ ยาอายุวัฒนะเป็นยาป้องกัน และไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย อย่างนั้นเรียกว่ายากาย แต่แค่นี้ยังไม่พอ ยังต้องมียาใจด้วย เรื่องแบบนี้เรามักจะละเลยกันไป มุ่งแต่จะฆ่าเชื้อโรคในร่างกาย แต่ไม่ดูที่จิตวิญญาณ”
บุญ อุปนันท์ หรือหมอบุญ ซึ่งเป็นหมอเมืองหรือหมอพื้นบ้าน ได้ให้ความหมายของคำว่ายาใจในแบบฉบับของล้านนาว่า สุขภาพจะดีได้ต้องยาใจก่อนยากาย
“ปกติใจคนเราอยู่ไหนต้องเบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจนิ่งและมีความกระตือรือร้น มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่เมื่อร่างกายเจ็บป่วย ลองสังเกตใจตัวเองให้ดีจะพบว่า จิตใจมันห่อเหี่ยวไปด้วย ไม่กระตือรือร้น เช่นนี้ร่างกายก็ไม่เข้มแข็งถ้าจิตใจมันห่อเหี่ยว
ดังนั้นหมอพื้นบ้าน เขาจะมีการปัดเคราะห์เรียกขวัญ มีคำพูดและท่วงทำนองของเสียงที่ทำให้ผู้ป่วยมีความฮึกเหิม จิตใจดี กำลังใจดี มีการให้พร ซึ่งนี่เป็นยาใจ ที่เป็นยาอายุวัฒนะ”
ที่มา
https://thaipublica.org/2018/03/varakorn-248/
https://mgronline.com/qol/detail/9480000069447
https://www.salika.co/2019/05/13/longevity-society-thailand/
ย้อนอดีตสู่ปัจจุบัน “อายุเฉลี่ยของคนไทย” ตั้งแต่ปี 2559 เพิ่มมากขึ้น 4.4 เดือน/ปี ทำให้คนไทยมีอายุเฉลี่ย 75.3 ปี จากเดิมเมื่อปี 2504 อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 55 ปี เท่านั้น (ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย : TDRI )
อย่างไรก็ตามอายุขัยเฉลี่ยของชาวโลกอยู่ที่ 71.4 ปี บางแห่งอาจมีอายุขัยต่ำกว่านี้ ไม่ก็สูงกว่านี้ ซึ่งเรากำลังจะแนะนำ 5 สถานที่ในโลก ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแหล่งของผู้มีอายุยืนและอยู่อย่างสุขภาพดี (ข้อมูลจากหนังสือ The Blue Zone Solution (2015) โดย Dan Buettner) มาดูกันว่าพวกเขาเหล่านี้มี ยาอายุวัฒนะ อะไรกันที่ทำให้สุขภาพกายสุขภาพใจแข็งแรง ประหนึ่งว่ามียาวิเศษไว้ในครอบครอง
1 . เมือง Sadinia ประเทศอิตาลีมีสัดส่วนของชายที่อายุเกินกว่า 100 สูงที่สุดในโลก อาหารส่วนใหญ่มีพืชผักเป็นหลัก ออกกำลังกาย และมีความใกล้ชิดกับครอบครัว จึงได้รับความอบอุ่นของครอบครัวอย่างเต็มที่ คนเหล่านี้มีอาชีพเลี้ยงแกะ ในวันหนึ่งเดินไม่ต่ำกว่า 8 กิโลเมตร ที่น่าสังเกตก็คือชายที่มีลูกสาวดูแลเป็นอย่างดี มักมีชีวิตยืนยาวกว่าเพื่อนบ้าน
2 . นักวิทยาศาสตร์พบว่าคนในบริเวณนี้มียีนส์ตัวที่มีชื่อว่า M26 ซึ่งโยงใยกับการมีชีวิตยืนยาวถ่ายทอดกันลงมาจากบรรพบุรุษ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่มีการผสมกันอย่างเหมาะเจาะระหว่างยีนส์ที่ดี อาหารที่เหมาะสม การออกกำลังและความสุขทางใจ
3 . เกาะ Okinawa ประเทศญี่ปุ่นวัฒนธรรมเด่นของชาวเกาะ Moai นี้ เกิดเป็นเครือข่ายเล็กๆที่มีความผูกพันช่วยเหลือกันอย่างใกล้ชิด ให้กำลังใจสนับสนุนกันตลอด ช่วยลดความเครียด ร่วมกันสร้างนิสัยดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ผลลัพธ์คือ มีผู้หญิงมีอายุยืนที่สุดในโลก อายุเกินกว่า 100 ปี เป็นจำนวนมาก
4 . เมือง Nicoya ประเทศคอสตาริกาคนที่นี่หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง และบริโภคถั่ว ข้าวโพด และผัก ตลอดจนผลไม้เป็นหลัก การบริโภคพืชผักที่อุดมด้วยสารอาหารครบหมู่และการออกกำลังกลางแจ้งทำให้มีร่างกายแข็งแรง กอปรกับชาวเมืองนี้มีอุดมการณ์ในการดำเนินชีวิตที่แข็งขันทำให้มีสุขภาพทั้งกายและใจดี จนทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มีอายุ 90 ปี ขึ้นไป
5 . เมือง Loma Linda รัฐแคลิฟอเนียร์เมืองนี้เป็น “เมืองหลวง” ของศาสนาคริสต์นิกาย The Seventh-day Adventist การมีหลักการดำเนินชีวิตซึ่งเน้นชุมชนตามศาสนา ทำให้ชาวเมืองนี้มีชีวิตยืนยาวกว่าคนอเมริกันทั่วไปประมาณ 10 ปี หลายคนในเมืองนี้ไม่บริโภคเนื้อ แต่กินพืชผักและธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยและถั่วเป็นหลัก
เมือง Ikaria ประเทศกรีกประชากรส่วนใหญ่มีการบริโภคอาหารที่เรียกว่า Mediterranean (ผักผลไม้ปริมาณมาก ถั่ว ธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยมันฝรั่ง และน้ำมันมะกอก) อย่างเคร่งครัด ทำให้หนึ่งในสามของชาว Ikaria มีชีวิตอยู่ในวัย 90 ปี และส่วนใหญ่ปลอดภัยจากโรคอัลไซเมอร์ ไม่เป็นโรคมะเร็งหรือมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง
จากข้อมูลทางสถิติของสถานที่ทั้ง 5 แห่ง ที่ทำให้ผู้คนมีความสุขทางกายตลอดจนอายุยืนมีสาเหตุมาจาก
1) อาหารที่บริโภค : หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการปรุงแต่ง, บริโภคผักผลไม้เป็นจำนวนมาก
2) ความผูกพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น : การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน, ชุมชนร่วมสร้างนิสัยดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
3) ความสุขทางจิตใจ : การปลอดจากความเครียด ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและไม่หวือหวา
4) การมีอุดมการณ์ในชีวิต : ใช้ศาสนาและความเชื่อในรูปแบบต่างๆเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
5) การออกกำลังกาย : เดินเท้าแทนการใช้ยานพาหนะ
6) มียีนส์เด่น : มียีนส์อันเหมาะสมที่ถูกส่งต่อมาจากบรรพบุรุษ
อะไรเป็นสาเหตุในการเกิดอาการแก่ก่อนวัย
1 . ไม่ทาครีมกันแดด
บางคน ขี้เกียจ ชีวิตเร่งรีบ ครีมหมด ฝนตก แดดไม่ออก บลาๆ เหตุผลเยอะมากเว่อร์ แต่มันไม่ทาไม่ได้จริงๆนะ รู้หรือไม่ ?! ผิวที่ไม่ได้ถูกปกป้องด้วยครีมกันแดดจะอันตรายแค่ไหน โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เป็นช่วงที่มีแสงยูวีในแดดแรงที่สุด
ถ้าหลังจากนี้ละเลย ไม่เห็นความสำคัญของครีมกันแดดแล้วล่ะก็เตรียมรับมือกับ ริ้วรอย ความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวไหม้แดด ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่มีการป้องกันใดๆเป็นระยะเวลานาน“โรคมะเร็งผิวหนัง” มาถามหาแน่นอน
2 . สูบบุหรี่
เห้อออ บำรุงผิวทุกวัน โลชั่นสูตร whitening ก็ทา คอลลาเจนก็กิน เข้าสปา กลูต้านี่ไม่เคยขาด ทำไมผิวยังแก่กร้านขนาดนี้ อะไรก็ไม่ช่วย…ถ้าคุณยังสูบบุหรี่ ! ก็เพราะสารนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่ ดูดความชุ่มชื้นออกไปจากผิว ทำให้ผิวพรรณเกิดริ้วรอย ไม่เต่งตึง นอกจากใบหน้าที่จะไปก่อนอายุจริงแล้ว คอ แขน ขา ก็ไม่รอดจ้ะ ริ้วรอยมันไปหมดทั้งร่าง บำรุงขนาดไหนก็เปล่าประโยชน์ นอกจากจะเสียบุคลิกภาพแล้ว หน้ายังไปก่อนอายุอีก
3 . ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ราวๆ 1-2 แก้ว 4 วัน/สัปดาห์ อาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ถ้าดื่มมากเกินไปจะเป็นการทำร้ายผิว เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อุดมไปด้วยอนุมูลอิสระ พร้อมจะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ผลลัพธ์คือทั้งผิวหน้าและผิวกายดูโทรมลงแน่ๆ
4 . ติดน้ำอัดลม/เครื่องดื่มชูกำลัง
นอกจะจะทำให้พุงน้อยๆของคุณดูพลุ้ยขึ้นแล้ว น้ำตาลจำนวนมหาศาลยังทำให้คุณหน้าเหี่ยวได้ง่ายๆ เนื่องจากปฏิกิริยาความหนืดของน้ำตาลจะเข้าไปรบกวนการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ทำลายอิลาสตินและชะลอการสร้างคอลลาเจน (2 ตัวนี้ ที่ช่วยทำให้ผิวของคุณดูเนียนสวย เต่งตึง มีความยืดหยุ่น) ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลง นำไปสู่การหย่อนคล้อยของผิวในที่สุด มีร่องลึกของริ้วรอยตามส่วนต่างๆ เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม มุมปาก ผิวรอบดวงตา อย่างเห็นได้ชัด
5 . ดื่มกาแฟมากเกินพอดี
หลายคนขาดกาแฟไม่ได้เลยในแต่ละวัน แต่กาแฟนี่แหละที่ยิ่งจะเข้าไปเพิ่มการผลิตน้ำมันในผิวคุณให้ออกมามาก ผลลัพธ์คือผิวไม่สดใสเปล่งปลั่ง มีผลต่อเลือด ระบบย่อยอาหาร ถ้าดื่มมากไปก็ยังทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยจนทำให้ผิวพรรณแห้งกร้านด้วย
6 . ดื่มน้ำน้อย
ใครที่รู้ตัวว่าไม่ค่อยดื่มน้ำระหว่างวัน ปัญหาสิวผิวหมองคล้ำก็เป็นๆหายๆ รีบดูแลผิวด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น ถ้าไม่เริ่มบำรุงจากภายใน สกินแคร์ตัวไหนก็ช่วยไม่ได้นะเอาจริง ปัจจัยอื่นๆ ถ้าอยู่ในอากาศที่ร้อนจัดและแห้ง ร่างกายจะสูญเสียน้ำทางผิวหนังและลมหายใจมากกว่าปกติ คนที่อยู่ในห้องแอร์เย็นๆก็ด้วย ต่างก็ต้องการน้ำมากกว่าคนที่อยู่ในร่ม อย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อเป็นการเติมน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวเสียกันนะคะ
7 . ไม่รับประทานผัก ผลไม้
ผักและผลไม้นอกจากจะช่วยลดโรคต่างๆในร่างกายได้ยังมีศาสตร์ช่วยชะลอวัย ดังนั้นเมื่อกินผักผลไม้จะทำให้เอนไซม์ที่ไปดูแลเทโลเมียร์ดีขึ้น เทโลเมียร์ก็จะยาวขึ้น ส่งผลให้คุณแก่ช้าลง
8 . พักผ่อนไม่เพียงพอ
ลองสังเกตดูว่า วันไหนที่นอนดึกมากๆ ตื่นเช้ามาใบหน้าจะโทรม ใต้ตาหมองคล้ำ เพราะเลือดไหลเวียนไม่ทั่วบริเวณรอบดวงตา ซึ่งเป็นส่วนที่ผิวหนังบางมากจึงเห็นได้ชัดที่สุด นอกจากนี้ผิวพรรณจะดูไม่สดใสแล้ว ผิวจะค่อยๆเหี่ยวย่น
เพราะฮอร์โมนทำงานไม่คงที่ แต่วันไหนที่มีการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ดูซีรีย์ดึกๆ การทำงานของต่อมใต้สมองจะทำการผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ที่มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งรวมถึงเนื้อเยื่อของผิวหนังด้วย ดังนั้นถ้าอยากมีผิวแลดูอ่อนเยาว์ ไม่แก่ก่อนวัย ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอนะ
9 . นอนทั้งเมคอัพ / ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด
มั่นใจว่าสาวๆหลายคนทราบข้อนี้ดี วันไหนที่ตื่นมาพร้อมเมคอัพหน้าก็จะดูแห้งกร้าน ขาดน้ำ สิวบุก จะกลับดึกแค่ไหนก็ต้องเช็ดหน้าให้สะอาด เพราะผิวหนังจะทำหน้าที่ฟื้นฟูตัวเองในยามค่ำคืน หากยังมีเครื่องสำอางหรือรองพื้นที่ไม่ได้ทำความสะอาดออกจากใบหน้า จะทำให้เกิดการขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูของผิว ส่งผลให้หน้าเหี่ยว มีริ้วรอย หรือ ทำให้อายุผิวไปไกลกว่าอายุจริงได้
10 . ฝุ่นควันจากมลภาวะ
สำหรับใครที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถสาธารณะเป็นประจำ ควรหลีกเลี่ยงฝุ่นควันตามท้องถนนด้วยการใส่ผ้าปิดปากหรือหน้ากากอนามัย เพราะมลภาวะที่มีฝุ่นควันเยอะเป็นภัยต่อผิว ก่อให้เกิดการทำลายเซลล์ผิว สภาวะดังกล่าวจะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระสูง เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
การหาทางออกให้กับปัญหาผิวไม่ได้มีแต่ครีมเคาท์เตอร์แบรนด์ราคาแพงเท่านั้น สำคัญที่สุดต้อง ลด ละ เลิกพฤติกรรม 10 ข้อข้างต้น ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เลือกรับประทานอาหาร ห้ามเครียด เพราะความเครียดดูเหมือนจะเป็นศัตรูตัวร้ายของความอ่อนเยาว์ ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ว่าแต่อนุมูลอิสระคืออะไร? เคยได้ยินว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย มันเป็นยังไง? เจ้าอนุมูลอิสระที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ ส่งผลต่อร่างกายดีหรือไม่ มาทำความเข้าใจให้มากขึ้นไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
ที่มา https://mahosot.com/aging-face.html
อนุมูลอิสระคืออะไร
ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากมีผิวพรรณที่ “แก่ก่อนวัย” แต่รู้ไหมว่าเราสามารถรับมือกับปัญหาผิวเหล่านี้ได้ ! ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าผู้ร้ายที่คอยจ้องจะทำลายผิวอย่าง “อนุมูลอิสระ” คืออะไร? มีต้นตอมาจากไหน? มีวิธีไหนบ้างที่จะจัดการกับสารตัวนี้ได้
อนุมูลอิสระ (Free Radicle) คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของอนุมูลอิสระ จริงๆแล้วมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ สภาพแวดล้อมรอบๆตัวเรา ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เช่น แสงแดด ฝุ่น ควันเสียจากท่อไอเสียรถยนต์ รวมถึงสารปนเปื้อนต่างๆโดยเฉพาะในอาหาร หรือแม้แต่เครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่ไม่ได้ล้างเป็นเวลานาน
ยกตัวอย่างจากอาหาร ทุกครั้งที่เรารับประทานอาหาร(ที่มีการปนเปื้อน) อาหารจะถูกเผาผลาญออกมาเป็นพลังงาน แต่ในขณะเดียวกันจะได้อนุมูลอิสระออกมาด้วย และอนุมูลอิสระตัวนี้นี่แหละค่ะ มักจะออกอาละวาดหรือทำลายเซลล์ในร่างกายให้แก่ตัวหรือเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นจนทำให้ผิวพรรณของเราเกิดริ้วรอย นำไปสู่ความหย่อนคล้อยในที่สุด
ต้นตอของอนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆในชีวิตประจำวันของเรา (อย่างที่กล่าวไปข้างต้น) ล้วนส่งผลให้ร่างกายได้รับและสะสมสารอนุมูลอิสระมากยิ่งขึ้น จริงๆแล้วร่างกายคนเราสามารถสร้างและกำจัดสารอนุมูลอิสระตัวนี้ออกไปได้ด้วยกลไกของร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้น อนุมูลอิสระที่ได้รับในแต่ละวันก็มากขึ้น
หากร่างกายไม่สามารถกำจัดสารเหล่านี้ได้หมด ก็จะส่งผลทำให้เซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ เกิดความเสียหายได้ เช่น ทำลายภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ หรือที่แย่ที่สุดคือเซลล์ปกติก่อตัวเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
อาหารต้านอนุมูลอิสระ
อาหารที่เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่จะอยู่ในผักผลไม้ หลายคนคงทราบคุณประโยชน์ของผักผลไม้ดีอยู่แล้ว ว่าช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ต้านการเจ็บป่วย ตลอดจนมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งด้วย เช่น
– วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดี พบในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว สตรอว์เบอร์รี กีวี ฯลฯ
– วิตามินเอ ช่วยในการบำรุงสายตา ผิวหนัง กระดูก อวัยวะสืบพันธุ์ เสริมภูมิต้านทาน ป้องกันการเกิดมะเร็ง พบมากในตับ เนื้อปลา ไข่แดง
– วิตามินอี ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เสริมภูมิต้านทาน บําารุงประสาท และระบบสืบพันธุ์ พบในผักใบเขียว ตับ ธัญพืช จมูกข้าวสาลี ถั่ว ไข่แดง เนย
– เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บํารุงผิวพรรณ บํารุงสายตา ยับยั้งและป้องกันการเกิดมะเร็งพบในผัก ผลไม้สีเหลือง ส้ม และสีเขียวเข้ม เช่น แครอท มันเทศ ฟักทอง มะละกอ บร็อกโคลี ฯลฯ
– ไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง เป็นต้น พบในผักผลไม้ที่มีสีแดงและสีชมพู เช่น มะเขือเทศ แตงโม มะละกอ ฝรั่งขี้นก เกรปฟรุตที่มีเนื้อสีชมพู ฯลฯ
ถึงตรงนี้สรุปได้ว่า “อนุมูลอิสระ” เปรียบเสมือนผู้ร้ายที่คอยเข้าทำลายเซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมไปถึงการเกิดริ้วรอยร่องลึกต่างๆ ใครไม่อยากแก่ก่อนวัยก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ให้ความสำคัญกับอาหารมาเป็นอันดับหนึ่ง เลือกรับประทานผักผลไม้ที่หลากหลายและมีสีสันต่างๆ หมุนเวียนกันไป เพื่อให้ร่างกายได้รับสารต่างๆที่เป็นประโยชน์อย่างสมดุล และฟื้นฟูผิวพรรณด้วยอาหารเสริมที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ
อาทิ astaxanthin, เห็ดหลินจือ, ถั่งเช่า, โสม, คอลลาเจน ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย มาหยุดเวลาผิวให้ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงกันเถอะค่ะ
5 อาหารเสริมชะลอวัย ที่ดีที่สุด
1 . Astaxanthin (แอสตาแซนธิน)
เป็นสารสีแดงที่พบได้ในปลาแซลมอล กุ้งตัวเล็ก พบปริมาณมากในสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส แอสตาแซนธินถือได้ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมดในปัจจุบัน เนื่องจากละลายในน้ำและไขมันได้ดี
จากงานวิจัยพบว่าการรับประทานแอสตาแซนธินต่อเนื่องนาน 4-6 สัปดาห์ จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยหมองคล้ำ ช่วยลดริ้วรอยบนผิวหน้า ทั้งยังช่วยปกป้องคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ได้ดี
2 . เห็ดหลินจือ
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า เห็ดหลินจือมีสรรพคุณอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในส่วน สปอร์เห็ดหลินจือ (คล้ายเกสรในดอกไม้) จะทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยชะลอความแก่ก่อนวัย ป้องกันไม่ให้เซลล์ภายในร่างกายถูกทำลาย เห็ดหลินจือ มีสารสำคัญอยู่หลายตัว ที่ช่วยชะลอความแก่ และริ้วรอยแห่งวัยได้ เช่น สารเยอมาเนียม (Germanium) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เพิ่มออกซิเจนในเลือด ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน และลดอาการไขมันในเส้นเลือดสูงได้
3 . ถั่งเช่า
ถั่งเช่าแท้จะมีสารโพลีแซคคาไรด์ ชนิดเบต้ากลูแคน 13 และ 16 จากการวิจัยพบว่าสารเบต้ากลูแคนเป็นสารในกลุ่มโพลีแซคคาไรด์ที่ดีที่สุด ซึ่งแพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับว่าทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงและมีอายุอ่อนลงได้จริง สามารถการย้อนอายุผิวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวแข็งแรง มีการยืดหยุ่นได้มาก ชะลอวัยให้แก่ช้า ชะลอความเสื่อมของเซลล์โดยตรง เพราะเบต้ากลูแคนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงมาก แรงกว่าวิตามินอีและวิตามินซี 100 เท่า
4 . โสม
เป็นยาทิพย์ที่ช่วยชะลอความแก่ก่อนวัยได้ เนื่องจากโสมมีสาร Phytonutrients และ สาร Anti-Oxidants จึงช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะมาทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยดูแลคอลลาเจนในผิวชั้นกลางทำให้ผิวหน้าดูกระชับเต่งตึง แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิมออกมา
ถึงแม้ว่าโสมจะมีความปลอดภัยสูง แต่มีข้อจำกัดต่อผู้ป่วยบางโรค การเลือกชนิดของโสมจึงมีความสำคัญอย่างมาก อย่างผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรทานโสมแดง เพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อนและความดัน ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ควรศึกษาให้ดีก่อนรับประทานสมุนไพรชนิดนี้
5 . คอลลาเจน
โปรตีนตัวเอกที่หนุ่มสาวรักสวยรักงามที่ต้องการชะลอวัยขาดไม่ได้! จริงๆแล้วคอลลาเจนร่างกายสามารถสร้างเองได้ แต่จะลดลงเมื่ออายุ 20 ปี และจะลดลงมากกว่าครึ่ง เมื่ออายุ 40 จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนถูกสร้างมาน้อยลงเรื่อยๆ ไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการแน่ๆ
อย่าลืมมองหาอาหารเสริมคอลลาเจนมารับประทาน โดยส่วนใหญ่มักจะทำมาจากหนังปลา เกล็ดปลา หนังวัว หนังหมู กระดูกวัว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนเต่งตึง ช่วยชะลอวัย ถ้าขาดคอลลาเจนผิวจะขาดความยืดหยุ่นเกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น คอลลาเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนรักผิวไม่ควรพลาด
ที่มา
https://juroujinhealth.com/ถั่งเช่าแท้-สมุนไพรช่วยชะลอวัยให้แก่ช้า/